3 ออนไลน์ที่กำลังจะมาถึง 2023

3 ออนไลน์ที่กำลังจะมาถึง 2023

แน่นอน! ต่อไปนี้คือสามธุรกิจออนไลน์ที่น่าสนใจและมีศักยภาพที่จะเติบโตในปี 2023:

บริการ Subscription Box: สร้างธุรกิจ Subscription Box ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์หรือประสบการณ์ที่คัดสรรแล้วให้กับลูกค้าเป็นประจำ ซึ่งอาจรวมถึงกล่องการสมัครสมาชิกเฉพาะกลุ่ม เช่น ผลิตภัณฑ์ความงาม ของว่างเพื่อสุขภาพ หนังสือ หรือแม้แต่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครซึ่งปรับให้เหมาะกับความสนใจเฉพาะ ด้วยการดูแลจัดการอย่างระมัดระวังและการมุ่งเน้นที่ความพึงพอใจของลูกค้า บริการกล่องสมัครสมาชิกสามารถมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่เป็นส่วนตัวและสะดวกสบายสำหรับสมาชิก

การวางแผนและโฮสต์เหตุการณ์เสมือนจริง: เนื่องจากกิจกรรมเสมือนจริงยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จึงมีความต้องการบริการวางแผนและโฮสต์เหตุการณ์เสมือนจริงเพิ่มขึ้น นำเสนอบริการการวางแผนงานที่ครอบคลุมสำหรับธุรกิจ องค์กร หรือบุคคลที่ต้องการจัดการประชุมเสมือนจริง การสัมมนาผ่านเว็บ เวิร์กช็อป หรือกิจกรรมทางสังคม ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับโลจิสติกงานอีเวนต์ การตั้งค่าทางเทคนิค การมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วม และการจัดการอีเวนต์โดยรวมเพื่อให้แน่ใจว่าประสบการณ์เสมือนจริงจะราบรื่น

แพลตฟอร์มการเรียนรู้ภาษาออนไลน์: ด้วยความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของทักษะภาษา แพลตฟอร์มการเรียนรู้ภาษาออนไลน์สามารถเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ร่ำรวย พัฒนาแพลตฟอร์มที่มีหลักสูตรภาษาเชิงโต้ตอบซึ่งสอนโดยอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมคุณสมบัติต่างๆ เช่น บทเรียนวิดีโอ ชั้นเรียนสด แบบทดสอบ และการติดตามความคืบหน้าเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่น่าดึงดูดใจ เสนอภาษาที่หลากหลายเพื่อตอบสนองผู้ชมที่หลากหลาย และให้ตัวเลือกสำหรับการเรียนรู้ด้วยตนเองหรือเซสชันกลุ่มแบบโต้ตอบ

โปรดจำไว้ว่าเมื่อเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ สิ่งสำคัญคือต้องทำการวิจัยตลาดอย่างละเอียด ระบุกลุ่มเป้าหมายของคุณ และสร้างแผนธุรกิจที่มั่นคง พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น การแข่งขัน ความต้องการของตลาด ความสามารถในการขยายขนาด และความสามารถในการทำกำไร ปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ และมุ่งเน้นที่การมอบคุณค่าและประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ลูกค้าเพื่อให้โดดเด่นในตลาดออนไลน์

สื่อสังคมกับการศึกษา สื่อสังคมกับการศึกษา

สื่อสังคมกับการศึกษา สื่อสังคมกับการศึกษา

สื่อสังคมออนไลน์สามารถส่งผลทั้งด้านบวกและด้านลบต่อการศึกษา ในแง่หนึ่ง แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสามารถใช้เป็นเครื่องมือทางการศึกษาเพื่ออำนวยความสะดวกในการเรียนรู้และการสื่อสารระหว่างนักเรียนและครู ตัวอย่างเช่น ฟอรัมออนไลน์และการสนทนากลุ่มสามารถใช้เพื่ออภิปรายหัวข้อในชั้นเรียน แบ่งปันแหล่งข้อมูล และถามคำถาม นอกจากนี้ โซเชียลมีเดียยังสามารถให้การเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาด้านการศึกษามากมาย เช่น บทช่วยสอนออนไลน์และวิดีโอเพื่อการศึกษา

ในทางกลับกัน สื่อสังคมออนไลน์สามารถเป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวและเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ได้เช่นกัน การแจ้งเตือนและการอัปเดตอย่างต่อเนื่องอาจทำให้นักเรียนมีสมาธิกับการเรียนได้ยาก และการแพร่หลายของข่าวปลอมและข้อมูลที่ผิดบนโซเชียลมีเดียอาจทำให้เกิดความสับสนและความเข้าใจผิดได้

นอกจากนี้ การใช้โซเชียลมีเดียในห้องเรียนทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ครูและนักเรียนจำเป็นต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลทางออนไลน์ และโรงเรียนจำเป็นต้องมีนโยบายเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของนักเรียนและตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างเหมาะสม

โดยรวมแล้ว สื่อสังคมออนไลน์สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการศึกษาได้ เมื่อใช้อย่างมีความรับผิดชอบและพอประมาณ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเรียนและครูที่จะต้องเข้าใจถึงประโยชน์และข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นของสื่อสังคมออนไลน์ และใช้สื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะที่ส่งเสริมประสบการณ์การศึกษามากกว่าที่จะลดทอน

วิธีการใช้ สื่อสังคมออนไลน์ ให้ดีต่อธุรกิจ

วิธีการใช้ สื่อสังคมออนไลน์ ให้ดีต่อธุรกิจ

แนวคิดของการทำธุรกิจให้เกิดความสำเร็จที่ทำได้ด้วยตัวเอง. แนวคิดของการทำธุรกิจให้เกิดความ

การทำธุรกิจให้เกิดความสำเร็จที่ทำได้ด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น มีแนวคิดของการทำธุรกิจให้เกิดความสำเร็จดังนี้:

  1. มีความมั่นใจในตนเอง: การทำธุรกิจให้เกิดความสำเร็จต้องเริ่มต้นจากการมีความมั่นใจในตนเอง คิดบวกและมองไปที่สิ่งที่เป็นไปได้ในการสร้างธุรกิจ
  2. กำหนดเป้าหมาย: การกำหนดเป้าหมายชัดเจนและสร้างแผนธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้เข้าใจและติดตามการเติบโตของธุรกิจได้
  3. วางแผนการตลาด: การวางแผนการตลาดช่วยให้เข้าใจตลาดและความต้องการของลูกค้า เพื่อให้สามารถตัดสินใจและดำเนินการตลาดได้อย่างเหมาะสม
  4. ทำงานอย่างหนัก: การทำงานอย่างหนักและพยายามเต็มที่ช่วยให้เกิดความสำเร็จในการทำธุรกิจ
  5. เรียนรู้และปรับปรุง: การเรียนรู้และปรับปรุงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ ดังนั้น ให้เรียนรู้และพัฒนาทักษะเพื่อต่อยอดการทำธุรกิจ

รอยย่นรอบดวงตาจะดูดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ปกติผิวหนังของคนเรา จะมีส่วนประกอบ ของใยคอลลาเจนและสารไฮยาลูโรนิก มีหน้า ที่ให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นแก่ผิวหนัง แต่เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้นใยคอลลาเจน และสารอุ้มน้ำจะฝ่อลง ทำให้ผิวที่เคยอิ่มน้ำ เต่งตึง กลายเป็นเกิดความเหี่ยวย่นบนใบหน้า ริ้วรอยร่องลึกบริเวณรอบดวงตาชัดเจนขึ้น ปกติผิวหนังของคนเรา จะมีส่วนประกอบ ของใยคอลลาเจนและสารไฮยาลูโรนิก มีหน้า ที่ให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นแก่ผิวหนัง แต่เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้นใยคอลลาเจน และสารอุ้มน้ำจะฝ่อลง ทำให้ผิวที่เคยอิ่มน้ำ เต่งตึง กลายเป็นเกิดความเหี่ยวย่นบนใบหน้า ริ้วรอยร่องลึกบริเวณรอบดวงตาชัดเจนขึ้น

การเกิดริ้วรอยรอบดวงตาส่วนใหญ่ เกิดจากไขมันบริเวณใต้ตาจะฝ่อตัวลงไปตามวัย ประกอบกับร่องตาของคนเรานั้นจะยิ่งขยายกว้างมากขึ้นตามอายุจนทำให้ร่องตาดูลึกขึ้น ใบหน้าจึงดูอิดโรยไม่สดใส อีกประการหนึ่งได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ปัญหาริ้วรอยร่องลึกรอบดวงตา สามารถปกปิดได้ด้วยการเติมเต็มใยคอลลาเจนที่หายไป ทำให้ริ้วรอยบริเวณดังกล่าวตื้นขึ้น สภาพผิวดูดีด้วยการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสารเติมเต็มกลุ่ม ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าบริเวณใต้ตาที่มีปัญหาริ้วรอยหมองคล้ำ ช่วยลดปัญหารอยคล้ำรอบดวงตา เติมเต็มตาลึกโบ๋ ปรับรูปหน้าให้ดูสดชื่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยังสามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำจากพันธุกรรม ภูมิแพ้ และไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังการรักษาได้อีกด้วย

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว ผู้รับบริการบางรายอาจมีอาการบวมที่บริเวณใต้ตาในจุดที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2-3 วัน นอกจากนี้ แพทย์จะให้ยาแก้ปวดและยาลดอาการบวมมาให้ร่วมด้วย และหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จ แนะนำให้ผู้รับบริการดูแลตัวเอง ดังนี้
– ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่จากเดิมได้
– ประคบน้ำเย็นที่ใต้ จะช่วยลดอาการบวมหลังฉีดได้
– ดื่มน้ำให้มากขึ้น จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ใต้ผิวยาวนานขึ้น
– หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนที่บริเวณใต้ตา เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ละลายง่าย
– งดการทำเลเซอร์ที่ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
– หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะทายาชาที่ใต้ตาในบริเวณจะฉีด ทำให้ความเจ็บขณะฉีดลดน้อยลง ซึ่งคนไข้ที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และใช้เวลาฉีดเพียงไม่กี่นาที หลังจากฉีดเสร็จ จะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แต่จะค่อยๆ หายไปเอง

ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ซีซี
ฟิลเลอร์ใต้ตาส่วนใหญ่จะใช้ประมาณ 1-2 CC ในการแก้ไขปัญหาใต้ตา โดยผมจะเน้นการค่อย ๆ เติมใต้ตา เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ดูไม่แข็ง ไม่หลอกตา ไม่เป็นก้อน ส่วนทำตาสองชั้นด้วยฟิลเลอร์ จะใช้ประมาณ 1 CC เป็นต้นไปเช่นกัน ภาพรวมรอบดวงตาก็จะดูดีขึ้น ดูสดใส ไม่โทรม

ความสำคัญของทันตกรรมเด็ก

เด็กแตกต่างจากผู้ใหญ่ ไม่ใช่แค่เรื่องความคิดความอ่าน แต่ร่างกายเองก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ฟันเป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่เด็กแตกต่างจากผู้ใหญ่อย่างมาก ฟันน้ำนมในเด็กนั้นซี่เล็ก อีกทั้งโครงสร้างภายในยังแตกต่างกับฟันแท้ ทำให้จำเป็นต้องมี “ทันตกรรมเด็ก” โดยเฉพาะขึ้นมา ทันตกรรมเด็ก (Pedodontics) คือการรักษาสุขภาพช่องปากในเด็กตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้นมา ในช่วงอายุประมาณ 6 – 8 เดือน ไปจนถึงช่วงวัยรุ่นตอนกลางอายุประมาณ 15 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ฟันแท้ขึ้นมาแทนฟันน้ำนมทั้งหมดแล้ว (ยกเว้นฟันกรามซี่ในสุด 4 ซี่ ที่จะขึ้นมาในช่วงอายุประมาณ 18 ปี) โดยทันตกรรมเด็ก จะเน้นไปที่การดูแลฟันน้ำนมเป็นส่วนใหญ่ ทั้งการแนะนำในการดูแลฟันน้ำนม การทำทันตกรรมเพื่อป้องกันฟันน้ำนมผุ และรักษาฟันผุ

ในทางทันตกรรมจะแบ่งเด็กๆออกเป็น 3 ช่วงวัยตามพัฒนาการของฟัน ดังนี้

  1. ทำฟันเด็กเล็ก

เด็กเล็ก หมายถึง เด็กในช่วงอายุประมาณ 6 เดือน – 2 ปี เป็นช่วงที่ฟันน้ำนมเริ่มขึ้นและขึ้นจนครอบ เด็กในวัยนี้ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากนัก ทันตกรรมในช่วงนี้จึงจะเน้นเรื่องการแนะนำในการดูแลฟันน้ำนมให้กับคุณพ่อคุณแม่ ส่วนใหญ่จะเป็นการแนะนำในเรื่องการทำความสะอาดฟันน้ำนม พฤติกรรมการกินนมหรือใช้ขวดนมที่ดีต่อฟันน้ำนม การเลิกนมมือดึก การเลิกขวดนม การเลือกอาหารว่างที่เหมาะสมกับฟันของเด็ก

  1. ทำฟันเด็กวัยอนุบาล

เด็กวัยอนุบาล เป็นเด็กในช่วงอายุประมาณ 3 – 6 ปี เป็นช่วงของการดูแลฟันน้ำนมเมื่อขึ้นครบแล้ว เด็กในวัยนี้เริ่มดูแลรักษาฟันด้วยตัวเองได้แล้ว และเป็นวัยที่เริ่มพบฟันผุจนมีอาการปวดฟันได้เช่นกัน การทำฟันเด็กในวัยนี้จะเน้นที่การแนะนำให้เด็กรู้จักกับเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ดูแลรักษาฟัน และวิธีการดูแลช่องปากที่ถูกต้อง เพื่อเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการทำทันตกรรมให้เด็ก

โดยสิ่งที่แนะนำจะมีตั้งแต่การแปรงฟัน ขัดฟัน ตรวจฟัน เคลือบฟลูออไรด์ ไปจนถึงทันตกรรมเด็กอื่นๆ ที่ซับซ้อนมากขึ้นเมื่อเด็กๆ เริ่มคุ้นเคย และในการทำฟันแต่ละครั้ง ทันตแพทย์จะไม่ทำฟันนาน แต่จะนัดพบหลายครั้งแทน เพื่อไม่ให้เด็กวัยนี้เครียดจนเกินไป เมื่อเด็กคุ้นเคยมากขึ้นจึงจะเริ่มเพิ่มเวลา

  1. ทำฟันเด็กโต

เด็กโต คือเด็กในช่วงอายุประมาณ 7 – 12 ปี เป็นช่วงที่ฟันแท้เริ่มขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนม และเป็นช่วงที่เด็กโตพอที่จะดูแลตัวเองได้อย่างดี และสามารถควบคุมตนเองได้ระหว่างการทำฟัน ทันตกรรมเด็กที่จะทำในเด็กโต จะเน้นไปที่การแนะนำเกี่ยวกับการดูแลฟันแท้ อย่างข้อควรระวังเกี่ยวกับการดูแลฟันหน้า การป้องกันฟันแท้ผุโดยเฉพาะที่ฟันกรามแท้ เป็นต้น

ทันตกรรมเด็กแตกต่างจากผู้ใหญ่ เนื่องจากฟันน้ำนมในเด็กกับฟันแท้ในผู้ใหญ่มีโครงสร้างที่แตกต่างกัน การทำฟันเด็กจะเน้นดูแลและป้องกันฟันผุเป็นหลัก เนื่องจากลักษณะของฟันน้ำนมนั้น ผุได้ง่ายกว่าฟันแท้ อีกทั้งตัวฟันก็ซี่เล็กกว่าฟันแท้ด้วย

นอกจากนี้ เด็กยังเป็นวัยที่ไม่สามารถแยกความเจ็บปวด ออกจากความกลัวหรือความเครียดได้ เมื่อมีอาการปวดฟันหรือรู้สึกกดดันเมื่อทำฟันก็จะไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำฟันเด็กจึงต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องจิตวิทยาการสื่อสารกับเด็กๆ ด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่แตกต่างกับทันตกรรมในผู้ใหญ่ค่อนข้างมาก https://www.willdentdentalclinic.com/our-services/pediatric-dentistry/

เปลี่ยนสูตร นมผงสำหรับเด็กท้องผูก อย่างไรไม่ให้ลูกท้องผูก ไม่ถ่าย

หลังการเปลี่ยนนมแต่ละระยะ คุณแม่อาจพบปัญหาลูกท้องผูก ไม่ยอมถ่าย ซึ่งอาจเป็นเพราะระบบย่อยอาหารของลูกกำลังปรับตัวกับสารอาหารในนมชนิดใหม่ เช่น โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตที่สูงขึ้น จึงย่อยยาก ทำให้ลูกไม่ค่อยถ่าย เมื่อเปลี่ยน นมผงสำหรับเด็กท้องผูก คุณแม่จึงควรเปลี่ยนทีละน้อย เพื่อให้เวลาระบบย่อยอาหารของลูกปรับตัว การรีบเปลี่ยนทันทีอาจทำให้ลูกมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก ไม่ถ่าย หรือบางคนก็ท้องเสียได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าหลังเปลี่ยนนมควรให้เวลาลูกสัก 2 สัปดาห์ว่าร่างกายลูกปรับตัวกับนมใหม่ได้หรือไม่

การดูแลเอาใจใส่ในเรื่องรายละเอียดของนมผงเด็กแต่ละสูตรและเวลาที่ควรเปลี่ยนนม จะช่วยให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่เขาควรจะได้รับอย่างครบถ้วน เมื่อได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามวัย ลูกก็จะพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่ดีตามมาค่ะ

อาหารสำหรับลูกในช่วงวัย 0-3ปีแรกที่เหมาะสมที่สุดคือ “นมแม่” เพราะในน้ำนมแม่มีคุณค่าอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของลูกครบถ้วน และยังส่งผลต่อระบบขับถ่ายที่ดี ไม่ทำให้ลูกเกิดอาการท้องผูกท้องเสียได้ แต่หากคุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ จำเป็นต้องพิจารณานมชนิดอื่นที่มีสารอาหารต่อการเจริญเติบโตควบคู่ไปกับการให้ลูกได้ทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่อย่างเหมาะสมตามวัย โดยเฉพาะเด็กในช่วง 1-3 ขวบ ที่จะเริ่มใช้มือหยิบจับอาหารเองได้ เรื่องกินของลูกจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่คุณแม่ต้องหันมาใส่ใจ เพราะหากให้ลูกกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรือการได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการต่างๆ ของลูก รวมถึงปัญหาระบบขับถ่ายที่อาจเกิดโรคท้องผูก ท้องเสียในเด็กได้

เลือกนมผงสำหรับเด็กท้องผูกที่เหมาะและดีให้ลูก ป้องกันอาการท้องผูก
ปัจจุบันนมผงสำหรับเด็กมีการพัฒนาสูตรที่อุดมไปด้วยสารอาหารครบถ้วน ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่างๆ ทั้งระบบประสาทและสมองของลูก อีกทั้งยังมีสารอาหารที่ช่วยเสริมสุขภาพของลำไส้ลูกให้แข็งแรง เพื่อปกป้องจากอาการท้องผูก ท้องเสีย อีกด้วย ได้แก่

ดังนั้น หากเลือกนมผงสำหรับเด็กท้องผูกให้เหมาะสมสำหรับลูกรัก คุณแม่ควรเลือกนมสำหรับเด็กที่มั่นใจได้ว่ามีสารอาหารใกล้เคียงกับน้ำนมแม่ และประกอบไปด้วยสารอาหารชนิดต่างๆ เช่น สฟิงโกลิปิด (โดยเฉพาะสฟิงโกมัยลินและแกงกลิโอไซด์) ฟอสโฟลิปิด ดีเอชเอและเออาร์เอ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการสมองและระบบประสาทของทารกและเด็ก เสริมให้ลูกรักแข็งแรงเพื่อพัฒนาการที่ดีสมวัยครบรอบด้าน เพราะพัฒนาการของลูกรักในช่วงวัย 1-3 ขวบเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วคุณแม่จึงไม่ควรหยุดนิ่งในการดูแล

การดูแลรักษาหลังดัดดิจิตอลและดัดผมแบบร้อนต้องทำอย่างไร

การดูแลเส้นผมหลังการดัดดิจิตอลเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อคงให้ผมเป็นลอนคลื่นสวยงาม ไม่คลายตัวและไม่เสียทรงง่าย โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • 1-2 วันแรกหลังการดัดดิจิตอล งดสระผม เพื่อให้น้ำยาดัดทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยยืดอายุให้ลอนดัดอยู่ตัวนานยิ่งขึ้น เพราะสารเคมีจากแชมพูจะทำให้ลอนของผมคลายตัวเร็วขึ้น
  • 1-2 วันแรกหลังการดัดดิจิตอล หลีกเลี่ยงการถักเปีย มัดผม หรือติดกิ๊บ เพราะจะทำให้เกิดรอยมัดหรือรอยกิ๊บบนเส้นผม
  • 1-2 วันแรกหลังการดัดผม หลีกเลี่ยงการแปรงผม หากจำเป็นต้องจัดแต่งทรงผม ให้ใช้นิ้วมือสางผมเบาๆ แม้ว่าจะเลยช่วงเวลาที่กำหนดไปแล้วก็ควรหลีกเลี่ยงการแปรงผมขณะผมแห้ง เพราะจะทำให้ลอนผมแตกและชี้ฟู
  • 1-2 สัปดาห์แรกหลังการดัดดิจิตอล งดการทำสีผม เพราะน้ำยาและสารเคมีอาจจยิ่งทำให้ผมแห้งเสีย งดลงน้ำทะเลหรือลงสระว่ายน้ำที่มีคลอรีน เพราะเป็นช่วงที่เส้นผมอ่อนแอจากสารเคมี เมื่อเส้นผมถูกน้ำทะเลหรือคลอรีนซ้ำ จะยิ่งทำให้ผมแห้งเสีย และลอนผมที่ดัดมาจะคลายตัว นอกจากนี้แสงแดดและความร้อนยังทำลายเส้นผมด้วยเช่นกัน
  • หลังการดัดไม่ควรสระผมบ่อยเกินไป เพราะน้ำยาดัดดิจิตอลจะทำให้ผมแห้ง ขาดความเงางาม หากสระผมบ่อยจะยิ่งทำให้ผมแห้งเสียยิ่งขึ้น และลอนผมจะคลายตัวเร็วขึ้นด้วย
  • ควรบำรุงเส้นผมด้วยครีมนวดผมสำหรับผมดัดเป็นประจำ โดยเน้นที่ปลายผม และล้างจนมั่นใจว่าสะอาดหมดจด เพราะผลิตภัณฑ์ที่ตกค้างจะทำให้เส้นผมหนักและไม่เป็นลอน และควรบำรุงด้วยทรีตเมนต์ผมอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อลดการแห้งเสีย
  • สำหรับผู้ที่มีผมสั้น หากสระผมควรปล่อยผมให้แห้งเอง ถ้าจำเป็นต้องใช้ไดร์เป่าผม ควรเลือกใช้ความร้อนต่ำที่สุดร่วมกับการใช้ Diffuser (อุปกรณ์ครอบหัวไดร์) เพื่อกระจายลมร้อนให้ทั่วและไม่ทำให้ลอนผมชี้ฟู
  • สำหรับผู้ที่มีผมยาว หากสระผมไม่ควรปล่อยผมห้อยลงให้แห้งเอง เพราะลอนจะไม่สวย แนะนำให้ขมวดผมเป็นมวย แล้วพันด้วยผ้าขนหนูโพกศีรษะเพื่อช่วยดูดซับน้ำและความชื้น สามารถใช้ไดร์เป่าผมร่วมกับ Diffuser ได้เช่นกัน

ข้อดีของการดัดดิจิตอลหรือดัดผมแบบร้อน

  • ได้ผมลอนใหญ่ สม่ำเสมอเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลอนผมที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ลอนผมจะคงทน และอยู่ได้นานกว่าการดัดผมแบบธรรมดา
  • สามารถจัดแต่งทรงผมได้โดยไม่ต้องใส่มูสหรือเจล แค่ใช้มือจัดแต่งทรงให้เป็นลอน

หลังการฉีดฟิลเลอร์ ขอนแก่นควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง

การฉีดฟิลเลอร์จะต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ ขอนแก่นจะต้องฉีดวางฟิลเลอร์ให้ถูกตำแหน่ง เพื่อผลลัพธ์ที่สวยและเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นก้อนอยู่บนหน้า การฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้งจะใช้เวลาไม่นาน ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะใช้เวลาฉีดฟิลเลอร์อยู่ที่ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง หลังจากฉีดฟิลเลอร์ คนไข้จะเห็นความแตกต่างในบริเวณที่ฉีดทันที และผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ ขอนแก่นจะสวย ดูเป็นธรรมชาติหลังจากฉีดไปแล้ว 4-5 วัน เนื่องจากหลังจากฉีดฟิลเลอร์ในบางเคส อาจจะมีอาการบวมแดงและช้ำอยู่บ้าง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

หลังการฉีดฟิลเลอร์ ขอนแก่นไป สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งคือห้ามนวด กด รวมถึงการสัมผัสแรงๆ ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ไปจากบริเวณที่ฉีด และในบางเคส แพทย์ใช้การฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกหน้า การนวดทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่แพทย์วางแผนไว้ หรือทำให้ไม่ได้ผลเลย ทั้งนี้หากหลังฉีดฟิลเลอร์คนไข้มีอาการคันหรือระคายเคือง ห้ามเกาโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบของผิวได้ หากอาการคันไม่หายไปภายใน 3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อความปลอดภัย

โดยปกติแล้วในช่วง 48 ชั่วโมงแรก แพทย์จะแนะนำไม่ให้ผู้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ ขอนแก่นโดนความร้อนที่มีอุณหภูมิสูง เช่นการเข้าห้องซาวน่า ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลายอย่างที่ใครๆ พูดกัน แต่ความร้อนจะทำให้ผิวยืดหดมากกว่าปกติ ส่งผลต่องการเซตตัวของฟิลเลอร์ หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไป ผิวอาจจะมีความเซนซิทีฟมากกว่าปกติ ด้วยรอยเข็มหลายๆ รูบนหน้า การโดนความร้อนอาจทำให้เกิดรอยแดง ระคายเคืองและผื่นขึ้น

ควรหลีกเลี่ยงการทานวิตามิน เช่น กิงโกะ น้ำมันพริมโรส กระเทียม โสมและวิตามินอี ทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าสารเหล่านั้นจะทำปฎิกริยาหรือส่งผลร้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่สารเหล่านั้นจะทำให้คนไข้เสี่ยงกับภาวะช้ำได้ง่ายกว่าปกติ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของ AHA BHA หรือ Retinoids ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวและบริเวณที่ฉีดสารฟิลเลอร์ได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงก่อนชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย

หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาแก้อักเสบบางชนิด เป็นยาที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ ขอนแก่นเป็นการฉีดลงไปในผิวหนังชั้นลึก ถ้าเกิดโดนเส้นเลือดขณะฉีดอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้า ทำให้ช้ำง่ายกว่าปกติ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย และไม่เสี่ยงช้ำ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าวอย่างน้อย 1 สัปดาห์

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ ขอนแก่นแนะนำให้งดการดื่มแอลกอลฮอล์ ของมึนเมา ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะฟิลเลอร์จะสลายหรืออยู่ไม่นาน แต่เป็นเพราะคนไข้จะไม่มีสติดูแลบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ไป อาจจะเผลอนวด เผลอเท้าคางได้ และการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีด อาจจะทำให้เลือดออกในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้

ก่อนเลือกซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่ายควรพิจารณาอะไรบ้าง

ประกันสุขภาพเหมาจ่ายก็เหมือนการรับประทานอาหารแบบบุฟเฟต์ คือ บริษัทที่รับประกันจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้ผู้เอาประกันในกรณีที่เจ็บป่วยตามทุนประกันที่ได้เลือกแผนประกันไว้ จึงมีหลายคนที่สนใจเลือกซื้อแบบเหมาจ่าย แต่ก่อนตัดสินใจซื้อควรพิจารณาข้อมูลให้ละเอียดก่อน

  • ค่าเบี้ยประกัน เบี้ยประกันแบบเหมาจ่ายจะมีค่าเบี้ยสูงกว่าการเลือกซื้อสัญญาแนบท้ายประกันชีวิตแบบแยกซื้อ แต่ข้อดีของประกันแบบเหมาจ่าย คือ ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน การเคลมทำได้ง่าย และสะดวก แผนความคุ้มครองไม่ซับซ้อน ดังนั้น ผู้ที่ต้องการซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่ายต้องยอมเสียเบี้ยประกันที่แพง ส่วนความคุ้มครองสุขภาพแบบซื้อแยก สามารถเลือกแผนตามที่ต้องการ ไม่ต้องซื้อหมดทุกรายการ เพราะอาจจะไม่ต้องการความคุ้มครองก็ได้
  • ค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลที่จะใช้บริการ ถึงจะเป็นประกันสุขภาพเหมาจ่าย แต่จะมีข้อจำกัดของวงเงินค่าใช้จ่ายบางอย่าง เช่น ค่าห้องพัก ดังนั้น ต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายด้านห้องพักในโรงพยาบาลที่คาดว่าจะเข้ารับการรักษาเมื่อยามเจ็บป่วยด้วยว่า เพียงพอกับค่าใช้จ่ายหรือไม่
  • สวัสดิการที่มีอยู่ สำหรับพนักงานประจำที่มีสวัสดิการทางด้านการรักษาพยาบาล ให้พิจารณาความคุ้มครองที่ได้รับว่าเพียงพอกับค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยหรือไม่ ถ้าไม่เพียงพออาจจะต้องมองหาประกันสุขภาพเพิ่มเติม และเมื่ออายุมากขึ้น เช่น 40 ปี ควรวางแผนพิจารณาซื้อประกันสุขภาพให้ตัวเองหลังเกษียณด้วย เพราะหลังเกษียณจะไม่มีสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลจากบริษัทอีกต่อไป
  • ประกันสุขภาพแต่ละประเภทมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน ถ้าต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมเยอะ ๆ เข้าใจได้ง่าย ไม่ยุ่งยากในการเคลม แต่ต้องจ่ายเบี้ยสูง ๆ ประกันสุขภาพเหมาจ่ายถือเป็นทางเลือกสำหรับคนไทยในปัจจุบัน

สะเก็ดเงิน จะหายได้ไหม จะเหลือรอยแผลเป็นหรือไม่

โดยธรรมชาตโรคสะเก็ดเงินไม่หายขาด ในผู้ป่วยรายที่ทราบปัจจัยเสี่ยงส่งเสริม เมื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านั้นอาการโรคจะทุเลาได้ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ปัจจัยส่งเสริมไม่ทราบ จึงมักเป็นๆ หายๆ โดยมีระยะสงบปลอดรอยผื่นของโรคนานแตกต่างกันในแต่ละบุคคล การดำเนินของโรคนั้นพบว่าความรุนแรงของโรคในแต่ละบุคคลก็แตกต่างกัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีผื่นจำนวนน้อยเป็นเฉพาะที่และเป็นเรื้อรังตลอดชีวิตมีน้อยราย ที่มีผื่นลามกระจายทั่วโดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาวิธีการรักษาให้เหมาะสมในแต่ละราย รอยโรคสะเก็ดเงินจะดูน่ากลัว แต่สามารถรักษาให้ทุเลาได้ การให้ยารักษาจะช่วยเร่งให้ผื่นหายเร็วขึ้น ขั้นตอนการดำเนินของโรคเมื่อผื่นทุเลาเองหรือผื่นตอบสนองต่อการรักษา ในระยะแรกผื่นจะมีขุยน้อยลง ผื่นราบลงและสีแดงของผื่นจะค่อยจางลงตามลำดับ เมื่อผื่นสงบผิวหนังจะกลับมาเหมือนผิวปกติ

การใช้ชีวิตอยู่กับโรคสะเก็ดเงินอย่างมีสติควรทำอย่างไร
– มีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคสะเก็ดเงินอย่างถูกต้อง เช่นทราบว่าโรคสะเก็ดเงินเป็นโรคเฉพาะตัว โดยลักษณะรอยโรค ความรุนแรง การดำเนินของโรค และปัจจัยกระตุ้นการกำเริบของโรคในแต่ละบุคคลจะแตกต่างกัน
– ยังไม่มียาวิเศษหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรักษาโรคสะเก็ดเงินให้หายขาดแต่มียาหลายขนานที่ช่วยให้ผื่นทุเลา
– การตอบสนองต่อยาแต่ละขนานในแต่ละบุคคลจะแตกต่างกัน แพทย์และผู้ป่วยควรปรึกษาร่วมกันเพื่อปรับแผนการรักษา ให้ได้ผลดีที่สุดและต้องเลือกวิธีการรักษาที่ผู้ป่วยทำได้และมีความพึงพอใจ
– ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการเจ็บป่วยโรคอื่น ประวัติการใช้ยาทุกชนิดหรือการรักษาทางเลือกที่ผู้ป่วยใช้อยู่เพราะอาจมีผลต่อการดำเนินของโรค และเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดพิษของยาซึ่งอาจออกฤทธิ์เสริมกัน
– การรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิต มองโลกในแง่ดี ถ้ามีปัญหาสงสัยต้องปรึกษาแพทย์อย่าเกรงใจ การรักษาจะประสบความสำเร็จเมื่อแพทย์และผู้ป่วยไว้วางใจซึ่งกันและกัน
– โรคสะเก็ดเงินนั้นมีการดำเนินของโรคเรื้อรัง เป็นโรคเฉพาะตัว ไม่ติดต่อคนใกล้ชิด ควรอธิบายให้ครอบครัวและผู้ใกล้ชิดเข้าใจและควรพาผู้ใกล้ชิดมาพบแพทย์ด้วยเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และสร้างความมั่นใจว่าได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
– การมีเพศสัมพันธ์ ในผู้ป่วยซึ่งมีเฉพาะผื่นจะไม่มีปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ และถ้าสามีหรือภรรยาให้กำลังใจซึ่งกันและกันจะยิ่งทำให้ครอบครัวมีความแน่นแฟ้นมากขึ้น แต่ถ้ามีอาการปวดข้ออักเสบร่วมด้วยอาจทำให้การมีเพศสัมพันธ์ไม่ราบรื่นและเกิดปัญหาทางด้านจิตใจกับคู่สมรสได้ จึงต้องปรับความเข้าใจหาทางออกให้ดำรงชีวิตมีความราบรื่น
– ครอบครัวและเพื่อนควรมีความเข้าใจช่วยเสริมกำลังใจ การหมกหมุ่นกังวลกับโรคจะมีผลต่อสุขภาพจิตทำให้เศร้าหมอง ซึมเศร้า โรคสะเก็ดเงินจะควบคุมยากขึ้น
– ดำรงชีวิตแบบมีสติ ไม่ประมาท งดสูบบุหรี่ งดดื่มสุราหรือสิ่งเสพติดพักผ่อนออกกำลังกายให้พอเหมาะ ควบคุมน้ำหนัก รับประทานอาหาร ให้ครบ 5 หมู่ ควบคุมอารมณ์ ลดความเครียด มีความสุขกับการทำงานมีงานอดิเรกที่ชอบ และการเจริญสติปัญญาให้จิตอยู่กับปัจจุบัน จะช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตกับโรคสะเก็ดเงินอย่างสงบ