จักรยานออกกำลังกายอุปกรณ์ออกกำลังกายประเภทคาดิโอ เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายและหัวใจ ซึ่งจะให้ความรู้สึกคล้ายกับการปั่นจักรยานอยู่ข้างนอก สามารถใช้ได้ทั้งในบ้านและยิม แบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ เช่น จักรยานนั่งปั่น (Upright Bike) จักรยานเอนปั่น (Recumbent Bike) จักรยาน (Spinning Bike)
1.ความเหมาะสมจักรยานออกกำลังกายมีความเหมาะสมกับผู้ที่ออกกำลังกายแตกต่างกันไปตามความแข็งแรงของร่างกาย กล้ามเนื้อในร่างกาย และเป้าหมายของการออกกำลังกาย
- จักรยานเอนปั่น (Recumbent Bike) เหมาะสำหรับผู้ออกกำลังกายที่เป็นผู้มีอายุหรือมีปัญหาด้านสุขภาพในส่วนของข้อต่อหรือกล้ามเนื้อ เช่น ข้อเข่า ข้อเท้า กล้ามเนื้อหรือมีการบาดเจ็บช่วงบริเวณด้านล่างของร่างกาย เนื่องจากจักรยานเอนปั่นจะช่วยลดแรงกระแทกจากน้ำหนักตัวและไม่ทำให้เกิดแรงกระแทกในระหว่างออกกำลังกาย และเพิ่มความสบายด้วยที่พิง
- จักรยานนั่งปั่น (Upright Bike) และจักรยานปั่น (Spinning Bike) เหมาะสำหรับผู้ออกกำลังกายที่ต้องการลดน้ำหนักหรือฟิตสุขภาพให้แข็งแรง เพราะว่า 2 ประเภทนี้ สามารถช่วยเผาผลาญไขมันได้ค่อนข้างดีและเป็นที่นิยมของคลาสออกกำลังกายในยิมและฟิตเนสหลาย ๆ แห่ง
2.การขับเคลื่อนของล้อจักรยานออกกำลังกาย ระบบที่ช่วยในการขับเคลื่อนจานล้อในระหว่างการออกกำลังกาย สามารถแบ่งได้ 2 แบบ คือ
- ระบบสายพาน (Belt) ถูกออกแบบมาสำหรับจักรยานออกกำลังกายโดยเฉพาะ ช่วยเสริมความนุ่มนวลในการออกกำลังกาย ลดการเกิดเสียง ทนทานต่อการใช้งานในเวลานาน ๆ
- ระบบโซ่ (Chain) เป็นระบบพื้นฐานของจักรยาน ความรู้สึกตอนออกกำลังกายจะเหมือนการปั่นจักรยานทั่วไป มีเสียงเพียงเล็กน้อย ความนุ่มนวลอาจจะไม่ดีเท่าระบบสายพาน
3.จานล้อ (Flywheel) จานล้อเป็นระบบที่ใช้ขับเคลื่อน เมื่อผู้ออกกำลังกายออกแรงปั่นจักรยาน น้ำหนักมากขึ้น ต้องออกแรงปั่นมากยิ่งขึ้น
- จานล้อ 6 – 12 กิโลกรัมเหมาะสำหรับการใช้ออกกำลังปกติทั่วไป ใช้ในบ้าน ปั่นออกกำลังกายได้ทั้งครอบครัว สำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก
- จานล้อหนัก 15-20 กิโลกรัมเหมาะสำหรับผู้ออกกำลังกายเป็นประจำ ใช้เวลาออกกำลังกายเป็นเวลานาน
- จานล้อหนัก 20 กิโลกรัมขึ้นไปเหมาะสำหรับใช้ในยิมและฟิตเนส สามารถเล่นได้เป็นเวลานาน ๆ ต่อเนื่องได้โดยที่ไม่ต้องพัก