หลังการเปลี่ยนนมแต่ละระยะ คุณแม่อาจพบปัญหาลูกท้องผูก ไม่ยอมถ่าย ซึ่งอาจเป็นเพราะระบบย่อยอาหารของลูกกำลังปรับตัวกับสารอาหารในนมชนิดใหม่ เช่น โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตที่สูงขึ้น จึงย่อยยาก ทำให้ลูกไม่ค่อยถ่าย เมื่อเปลี่ยน นมผงสำหรับเด็กท้องผูก คุณแม่จึงควรเปลี่ยนทีละน้อย เพื่อให้เวลาระบบย่อยอาหารของลูกปรับตัว การรีบเปลี่ยนทันทีอาจทำให้ลูกมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก ไม่ถ่าย หรือบางคนก็ท้องเสียได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าหลังเปลี่ยนนมควรให้เวลาลูกสัก 2 สัปดาห์ว่าร่างกายลูกปรับตัวกับนมใหม่ได้หรือไม่
การดูแลเอาใจใส่ในเรื่องรายละเอียดของนมผงเด็กแต่ละสูตรและเวลาที่ควรเปลี่ยนนม จะช่วยให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่เขาควรจะได้รับอย่างครบถ้วน เมื่อได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามวัย ลูกก็จะพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่ดีตามมาค่ะ
อาหารสำหรับลูกในช่วงวัย 0-3ปีแรกที่เหมาะสมที่สุดคือ “นมแม่” เพราะในน้ำนมแม่มีคุณค่าอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของลูกครบถ้วน และยังส่งผลต่อระบบขับถ่ายที่ดี ไม่ทำให้ลูกเกิดอาการท้องผูกท้องเสียได้ แต่หากคุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ จำเป็นต้องพิจารณานมชนิดอื่นที่มีสารอาหารต่อการเจริญเติบโตควบคู่ไปกับการให้ลูกได้ทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่อย่างเหมาะสมตามวัย โดยเฉพาะเด็กในช่วง 1-3 ขวบ ที่จะเริ่มใช้มือหยิบจับอาหารเองได้ เรื่องกินของลูกจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่คุณแม่ต้องหันมาใส่ใจ เพราะหากให้ลูกกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรือการได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการต่างๆ ของลูก รวมถึงปัญหาระบบขับถ่ายที่อาจเกิดโรคท้องผูก ท้องเสียในเด็กได้
เลือกนมผงสำหรับเด็กท้องผูกที่เหมาะและดีให้ลูก ป้องกันอาการท้องผูก
ปัจจุบันนมผงสำหรับเด็กมีการพัฒนาสูตรที่อุดมไปด้วยสารอาหารครบถ้วน ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่างๆ ทั้งระบบประสาทและสมองของลูก อีกทั้งยังมีสารอาหารที่ช่วยเสริมสุขภาพของลำไส้ลูกให้แข็งแรง เพื่อปกป้องจากอาการท้องผูก ท้องเสีย อีกด้วย ได้แก่
ดังนั้น หากเลือกนมผงสำหรับเด็กท้องผูกให้เหมาะสมสำหรับลูกรัก คุณแม่ควรเลือกนมสำหรับเด็กที่มั่นใจได้ว่ามีสารอาหารใกล้เคียงกับน้ำนมแม่ และประกอบไปด้วยสารอาหารชนิดต่างๆ เช่น สฟิงโกลิปิด (โดยเฉพาะสฟิงโกมัยลินและแกงกลิโอไซด์) ฟอสโฟลิปิด ดีเอชเอและเออาร์เอ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อพัฒนาการสมองและระบบประสาทของทารกและเด็ก เสริมให้ลูกรักแข็งแรงเพื่อพัฒนาการที่ดีสมวัยครบรอบด้าน เพราะพัฒนาการของลูกรักในช่วงวัย 1-3 ขวบเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วคุณแม่จึงไม่ควรหยุดนิ่งในการดูแล